เป็นการปรับสภาพผิว ด้วยการรักษาที่มีต้นกำเนิดจากฝรั่งเศษ โดยฉีดสารเข้าไปในผิวหนังชั้นกลาง ไม่ว่าจะเป็น วิตามิน แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระ ตัวยาสลายไขมัน และอื่นๆ ตามต้องการ เพื่อทำการรักษาผิวอย่างตรงจุด meso therapy บางเทคนิคใช้การสะกิดเข็มทั่วใบหน้าเพื่อทำการฉีดเฉพาะที่ตามดุลยพินิจของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 

 

ประเภทของ Meso Therapy

1. Meso สำหรับลดไขมัน

ทำการรักษาด้วยการฉีดสารบางชนิดหรือเอนไซม์เพื่อย่อยสลายไขมันเข้าไปในชั้นผิวบริเวณที่เราต้องการทั่วร่างกาย ทั้งใบหน้า เหนียง หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา สะโพก ซึ่งเอนไซม์ที่ฉีดเข้าไปจะช่วยสลายไขมัน และกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน การฉีดจะกระจายเอนไซม์ไปในบริเวณที่ต้องการ เพื่อการรักษาที่ครอบคลุม

1. Meso ผิวใส หน้าใส
   เป็นการฉีดวิตามิน แร่ธาตุเพื่อบำรุงผิวเข้าไปในบริเวณที่ต้องการ ทั้ง กรด Hyaluronic วิตามินซี หรือสารอื่นๆ ที่ช่วยลดจุดด่างดำบนใบหน้า และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวใสเปล่งประกาย อีกทั้งกระตุ้นการสร้างอีลาสตินเพิ่มความยืดหยุ่นผิวให้เนียนเด้ง 
2. Meso Melasma ลดฝ้า กระ 

เป็นการทำ meso ด้วยการใช้สารบางชนิด รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระฉีดในผิว ช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานินซึ่งเป็นต้นเหตุของจุดด่างดำบนใบหน้า อีกทั้งยังช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วเพื่อเผยผิวใสสม่ำเสมอได้อย่างแท้จริง

1. Meso Hair รักษาผมร่วง

ใช้การรักษาด้วยการฉีดสารอาหาร และวิตามินบำรุง ให้กับรากผม กระตุ้นการไหลเวียนเลือด และทำให้เส้นผมได้รับการบำรุงจากโคนจรดปลาย แก้ปัญหาทั้งผมร่วง ผมบาง ทำให้รากผมทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ควรทำ meso hair ร่วมกับการรักษาผมร่วงเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

 

ข้อดีของการทำ meso

เนื่องจากเป็นการฉีดสารบำรุงเข้าไปในผิวโดยตรง ทำให้ผิวได้รับสารอาหารตามที่ต้องการ และได้ผลเร็วกว่าการบำรุงผิวทั่วไปอย่างมาก  กาารักษาด้วยวิธีการทำ meso สามารถเลือกชนิดของสารที่จะฉีดได้ ทั้งวิตามิน แร่ธาตุ และอื่นๆ อย่างเฉพาะเจาะจง ทำให้ผิวได้รับการกระตุ้น และได้รับสารอาหารบำรุงผิวอย่างเพียงพอ ผิวที่ผ่านการทำ meso สามารถฟื้นฟูตัวเองได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ดูเปล่งปลั่ง ริ้วรอยดูจางลง

การดูแลตัวเองหลังทำ meso

การฉีดสารบำรุงเข้าผิวจะมีความรู้สึกเจ็บเบาๆชั่วขณะหนึ่ง บางรายอาจจะมีรอยแดง บวม เพียงเล็กน้อยซึ่งหายได้เอง ในการรักษาใบหน้าควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสหน้า เพราะอาจจะไปรบกวนการทำงานของผิวหนังได้ ภายหลังการรักษา 1-2 วัน ควรงดออกกำลังกาย หรือกิจกรรมที่มีเหงื่อ เพื่อไม่ให้กรดในเหงื่อทำปฏิกิริยาบนผิวหน้าได้ ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงแสงแดด และใช้ครีมกันแดด ค่า spf สูง เพื่อปกป้องผิวจากการโดนทำลาย นอกจากนี้ยังสามารถใช้ครีมบำรุงผิวที่ไม่มีสารระคายเคืองเพื่อปลอบประโลมผิวหน้าให้อิ่มฟูมากขึ้น